ลูกฟุตบอลโลก

ลูกฟุตบอลที่เคยใช้ในฟุตบอลโลก

1.เม็กซิโก 1970 - เทลสตาร์ 

ลูกฟุตบอลใน เวิลด์ คัพ 1970 ตั้งชื่อตามดาวเทียมเทลสตาร์ ซึ่งเป็นดาวเทียมดวงแรกของโลกที่ใช้ในการสื่อสาร 

เป็นครั้งแรกที่ลูกบอลในบอลโลกมาใช้ลายขาวดำ โดยสาเหตุที่ต้องทำแบบนี้ก็เพื่อทำให้มองเห็นได้ชัดในการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ที่ในเวลานั้นยังเป็นระบบขาวดำอยู่ 

2.เยอรมัน 1974 - เทลสตาร์ เดอร์ลาสต์

มีลักษณะเหมือนกับ เทลสตาร์ ในปี 1970 เพียงแต่เปลี่ยนโลโก้ อาดิดาส จากสีทองมาเป็นสีดำ และเติมชื่อ เดอร์ลาสต์ ต่อท้ายไปเท่านั้นเอง

3.  อาร์เจนตินา 1978 - แทงโก้

อาดิดาส ตั้งชื่อลูกบอล แทงโก้ เพื่อให้เกียรติเจ้าภาพอาร์เจนตินา และมีลวดลวยที่แตกต่างไปจาก เทลสตาร์

4.   สเปน 1982 - แทงโก้ เอสปาญ่า

 เป็นครั้งแรกที่ลูกบอลผลิตมาจากการผสมของหนังแท้และหนังเทียม

5. เม็กซิโก 1986 - อัซเตก้า

ลูกบอล อัซเตก้า ผลิตโดยใช้หนังเทียมทั้งหมด และมีลวดลายเป็นรูปตามอารยธรรมโบราณของแดนจังโก้

6.  อิตาลี 1990 - เอทรัสโก้

ใช้หนังเทียมและสามารถกันน้ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ รวมทั้งออกแบบลวดลายตามวัฒนธรรมอิทรูเรียโบราณ

7. สหรัฐฯ 1994 - เควสตร้า

เริ่มมีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โพลีเอธีลีน มาเป็นส่วนผสมในการผลิตลูกบอล

8.ฝรั่งเศส 1998 - ตริโกลอร์

เป็นครั้งแรกที่ลูกบอลมีสีสัน โดยแต่งแต้มสี แดง-ขาว-น้ำเงิน ตามสีของธงชาติฝรั่งเศส และใช้วัสดุ ซินแทติก

9.ญี่ปุ่น/เกาหลีใต้ 2002 - ฟีเวอร์โนวา

ทำลวดลายให้เข้ากับเอเชีย มีสีเทา, แดง และทอง แต่งแต้ม

10.เยอรมัน 2006 - ทีมไกส์

ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในลูกบอลที่ดีที่สุดของฟุตบอลโลก โดยมาในแบบไม่มีตะเข็บ และทำให้การเตะมีความแม่นยำมากขึ้น

11.แอฟริกาใต้ 2010 - จาบูลานี่

ตั้งชื่อ จาบูลานี่ ซึ่งมีความหมายว่า นำความสนุกสนานมาให้กับทุกคน โดยประดับลวดลวย 11 สี เพื่อฉลองการใช้ลูกบอลของ อาดิดาส ในบอลโลกมา 11 สมัย

12. บราซิล 2014 - บราซูก้า

มาในลวดลายที่มีสีสันให้เข้ากับแดนแซมบ้า

13. รัสเซีย2018-เทลสตาร์ 18

โครงสร้างลูกบอล วัสดุที่ใช้ และเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ลูกบอลให้มีโครงสร้างผิวสัมผัสที่มีคุณสมบัติเกาะยึดดีขึ้น มีประสิทธิภาพความทนทานมากขึ้นทั้งสภาพในและนอกสนามแข่งขัน